ผู้ต้องหาผูกคอดับคาห้องขัง สภ.เพ ระยอง ใช้เชือกกางเกงนั่งผูกคอกับลูกกรงเหล็ก
ผู้ต้องหาผูกคอดับคาห้องขัง สภ.เพ ระยอง ใช้เชือกกางเกงนั่งผูกคอกับลูกกรงเหล็ก
เพิ่งถูกจับคดีเมาแล้วขับรถหกล้อไปชนรถอีก2คัน ผกก.เผยอาจเครียดเกี่ยวกับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะประกันไม่รับผิดชอบกรณีเมาแล้วขับ
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 18 ธ.ค.65 ร.ต.อ.ธนาธิป จิตอารีย์ รองสว.(สอบสวน) สภ.เพ ระยอง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุผู้ต้องหาผูกคอเสียชีวิต ภายในห้องขัง ของสภ.เพ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ปรีดิ์ภาวัฒน์ ชัยเพ็ชรโยธิน ผกก.สภ.เพ ระยอง ทราบเรื่อง พร้อมประสานแพทย์เวร ีพ.ระยอง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจ.ระยอง มาตรวจสอบ
จากการตรวจสอบภายในห้องขังที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ชั้นสอง เป็นห้องขังชาย พบ ศพ นายประสงค์ วุฒิ อายุ 37 ปี บ้านเดิมอยู่จ.พะเยา นั่งเสียชีวิตอยู่ริมกรงเหล็ก ตรวจสอบสภาพศพพบใช้เชือกรัดเอวกางเกงขาสั้น มาผูกคอในท่านั่ง
ต่อมาเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจ.ระยอง ได้เข้าตรวจสอบศพผู้เสียชีวิต จากการตรวจพิสูจน์เบื้องต้นพบบาดแผลที่บริเวณคอเป็นรอยเชือกรัด ไม่พบบาดแผลตรงจุดอื่นของร่างกาย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชม. หลังการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ จึงนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.ระยอง
สำหรับนายประสงค์ ผู้เสียชีวิต เป็นผู้ต้องหาคดีขับรถขณะเมาสุราและขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย โดยเมื่อเวลา 20.40 น.วันที่ 17 ธ.ค 65 นายประสงค์ ผู้เสียชีวิต ได้ขับรถบรรทุกหกล้อยี่ห้อฮีโน่สีขาว ทะเบียน 80-8836 พะเยา มาถึงบริเวณโค้งดอกเห็ด ถ.บ้านเพ-แหลมแม่พิมพ์ ม.6 ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง ได้เกิดชนกับ รถเก๋ง 2 คัน จนได้รับความเสียหาย โดยมีหนึ่งคันเกิดไฟไหม้ขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายประสงค์ ซึ่งมีอาการเมาสุรา พูดจาโวยวาย จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.เพ พร้อมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นายประสงค์ สุดได้ 104 มิลลิกรัม เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงนำตัวเจ้าห้องขังเพื่อให้หายจากอาการมึนเมาแล้วค่อยสอบสวนใหม่
พ.ต.อ.ปรีดิ์ภาวัฒน์ ชัยเพ็ชรโยธิน ผกก.สภ.เพ ระยอง ได้กล่าวว่า จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในห้องขัง พบว่า ก่อนที่ ผู้ต้องหาจะลงมือผูกคอ ได้ใช้เชือกรัดเอวของกางเกงที่ใส่มา แล้วนั่งผูกคอ ซึ่งคล้ายกับคนนั่งหลับ จนกระช่วงเช้าเจ้าหน้าที่สิบเวรขึ้นไปตรวจสอบ และ พบว่าเสียชีวิตแล้ว
ส่วนสาเหตุคาดคงจะเครียดกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และเป็นฝ่ายผิด ซึ่งขับรถขณะเมาสุรา กรณีดังกล่าวทางประกันภัยจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้เครียดกับค่าเสียหายที่ต้องรับผิดชอบ จึงอาจเป็นสาเหตุของการจบชีวิต แต่ถึงอย่างไรจะต้องสอบสวนญาติของผู้เสียชีวิต เกี่ยวกับประวัติของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียด อีกครั้ง
มาโนช สนองสุข/ทรงกรด กิจกุศลทรัพย์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น