เจ้าของฟาร์มรับอุปการะ5 ชีวิตสุดรันทด หน่วยงานในพื้นที่ช่วยเหลือมาตลอดแต่เจ้าตัวไม่ยอมรับจนเกิดประเด็น
เจ้าของฟาร์มรับอุปการะ5 ชีวิตสุดรันทด หน่วยงานในพื้นที่ช่วยเหลือมาตลอดแต่เจ้าตัวไม่ยอมรับจนเกิดประเด็น
จากกรณีมีการนำเสนอข่าว 5 ชีวิตพ่อแม่ลูกสุดรันทด หลังพากันไปอาศัยตึกร้าง บริเวณริมถนนสายบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ม.4 ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ต้องดื่มน้ำจากบ่อข้างถนน แถมยังคลอดลูกน้อยภายในป่าเพราะไม่มีเงินไปหาหมอ จนกลายเป็นเรื่องราวน่าเวทนา
ความคืบล่าสุดวันที่ 25 พ.ย.65 นายไพโรจน์ จึงธนาเจริญ นายอำเภอชะอำ ได้สั่งการให้ นายธีลพล ปรียานุภาพ ปลัดอาวุโสอำเภอชะอำ นำเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เพชรบุรี ตำรวจภู สภ.ชะอำ อบต. กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าว โดยมีพบนายชัยยันต์ พลเต้า และ น.ส.ชนิกานต์ คำพิมพ์ สองสามีภรรยา ซึ่งพักอาศัยอยู่ภายในอาคารร้าง พร้อมลูกน้อยวัย 8 ขวบ, 5 ขวบ, 2 ขวบ และลูกเล็กที่เพิ่งคลอได้เพียง 1 เดือนอยู่ภายในตึกร้าง จากการตรวจสอบพบว่า ที่อยู่อาศัยเต็มไปด้วยกองขยะ กองเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้เข้าไปพูดคุยกับสองสามีภรรย เพื่อที่จะนำลูกทั้ง 4 คนไปไว้ที่บ้านพักเด็ก และครอบครัว จ.เพชรบุรี เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งอาจส่งผลให้เด็กมีอันตรายได้ โดย2สามีภรรยายังไม่ยินยอมที่จะให้ลูกไปบ้านพักเด็ก โดยเมื่อเดือนกุมพาพันธ์ 2565ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่หลายหน่วยในพื้นที่ได้ร่วมให้การช่วยเหลือ ครอบครัวนี้แล้ว นายจ้างได้ให้2สามีภรรยาคู่นี้ไปปลูกบ้านอยุ่ในที่ดินของนายจ้างฟรีทางหน่วยงานให้การช่วยเหลือดำเนินการสร้างบ้านให้ แต่2สามีภรรยาคู่นี้ไม่ยอมไปอาศัยกับนายจ้างแต่จะขออยู่ตึกร้างแทน จนเป็นข่าวครึกโครมสร้างความเสียหายให้แก่หน่วยงานที่รับผอดชอบในพื้นที่
ต่อมานางแป๋ว ชัยท่วม อายุ 68ปี นายจ้างของนายชัยยันต์ ได้เดินทางมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ก่อนไกลเกลี่ย ให้ 2สามีภรรยาและลูกๆย้ายไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน ที่อยู่ไม่ไกลจากตึกร้างเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านของนายจ้าง เพื่อประเมินสภาพความเป็นอยู่จริง ซึ่งพบว่า2สามีภรรยาสามารถนำครอบครัวมาอาศัยอยู่ได้ ก่อนที่กับ2สามีภรรยาจะตกลงนำครอบครัวมาอาศัยอยู่กับนายจ้าง
นางแป๋ว นายจ้าง เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเตรียมพื้นที่ให้ปลูกบ้าน ชวนครอบครัวนี้ให้ไปอยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่ยอมไปอยู่ ตนจึงไถพื้นที่ปลุกหญ้าให้วัวกิน แล้วก็ไม่ร็ว่าทำไม่ครอบครัวนี้จึงไม่ยอมมาอยู่ด้วยกัน วันนี้จึงชักชวนมาอยู่ด้วยกันที่โรงรถก่อน ระยะยาวจะจัดสรรให้อีกครั้ง อาชีพก็มีแล้ว ตนนี้เอาเรื่องของการอาศัยก่อน
นายสุรินทร์ อาคมเวทย์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.เพชรบุรี กล่าวว่า กล่าวว่า เมื่อกุมพาพันธ์ 2565ที่ผ่าน ตนเดินทางมาความช่วยเหลือกับครอบครัวนี้แล้วครั้งหนึ่ง พร้อมพูดคัยกับเจ้าของฟาร์มโคนม ซึ่งยืนยันว่จะสร้างที่อยู่อาศัยให้กับครอบครัวนี้ แต่ต่อมาครอบครัวนี้ไม่ยอมไปอยู่พร้อมยืนยันว่าจะขออยู่ที่ตึกร้างเหมือนเดิม ก็เลยไม่แน่ใจว่าที่ครอบครัวออกสื่อต้องการอะไร และที่มาวันนี้ก็เพื่อมาตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของเด็ก หากพบเด็กไม่สามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้ ก็มีความจำเป็นต้องพาเด็กไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้ แต่จากการพุดคุยกับ นายจ้างของครอบครัวนี้ ยืนยันว่าจะพาครอบครัวนี้ไปอยู่ที่บ้านด้วยกันเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น